DEAD SILENCE



     ผลงานสุดสยองของผู้กำกับ James Wan และ Leigh Whannell  ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนต์สยองขวัญชั้นครูอย่าง "Saw" แต่เรื่องนี้ไม่แหวะ ไม่โหด ไม่มีเลือดตับไตเหวอะหวะเหมือน Saw ทำให้ดูง่ายกว่าเหมาะสำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มดูภาพยนต์สยองขวัญ Death Silence เป็นภาพยนต์ที่เน้นความหลอน สยอง ลุ้นไปกับการไขปริศนา และทิ้งท้ายที่สุดจะหักมุมชนิดที่ต้องปรบมือให้กับความคาดไม่ถึงตามสไตล์ของผู้กำกับทั้งสองคน


*****************************************************************************************************************************
 
    เรื่องราวเริ่มขึ้น ณ ใจกลางเมือง ในกลางดึกคืนหนึ่งเจมส์มี่ แอชเช่น และ ลิซ่าคู่สามีภรรยาที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องของพวกเขา แต่ทว่าจู่ๆเสียงออดก็ดังขึ้นและได้มีพัสดุปริศนามาวางอยู่ที่หน้าประตูไม่มีทั้งชื่อผู้ส่งและชื่อผู้รับ ลิซ่าจึงได้แกะกล่อง และพบว่าภายในนั้นบรรจุตุ๊กตาไม้ดัดเสียงเก่าที่มีลักษณะน่ากลัวใว้ภายใน ก่อนที่ลิซ่าจะเล่าถึงเรื่องที่เธอเคยได้ยินในตอนที่ยังเป็นเด็กเกี่ยวกับ "แมรี่ ชอร์" และหลังจากนั้นเจมส์มี่ก็ได้ออกไปซื้ออาหารทิ้งให้ลิซ่าอยู่กับหุ่นปริศนาตัวนี้เพียงลำพัง และในขณะที่เธอจะวางแผนหลอกเจมส์มี่ตอนกลับมา ตุ๊กตาไม้ตัวนี้ก็ได้ฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยม

    เจมส์มี่กลับมาและพบว่าลิซ่าตายแล้วและศพก็มีสภาพที่สยองมาก ฟันกราม และลิ้นของเธอได้หายไป ตำรวจไม่พบตัวผู้ต้องสงสัย แต่ทว่านักสืบลิมตั้นนั้นสงสัยในตัวเจมส์มี่ว่าเขานั้นอาจจะเป็นคนที่ฆ่าภรรยาของตัวเอง และเมื่อเจมส์มี่หลุดมาได้เขาจึงตรงกลับไปยังห้องพักทันที และแกะกล่องไม้ที่บรรจุตุ๊กตาตัวนั้นออกมา และเขาก็ได้เห็นภาพหญิงแก่ที่เขาเคยได้ยินเรื่องเล่าในตอนเด็ก และชื่อของเมืองที่เขาได้จากมานานแล้ว "้เรเวนแฟร" เจมส์มี่ได้เดินทางไปยังบ้านเกิดของเขาโดยทันที พอไปถึงเจมส์มี่ได้พบว่าสภาพของเมืองนี้แทบจะกลายเป็นเมืองร้างอยู่แล้ว เสมือนกับว่าเมืองนี้กำลังโดนคำสาปอยู่ เขาได้ตรงไปยังบ้านเก่าที่เขาได้เติบโตมาโดยทันที ที่นั่นเขาได้พบกับเอลล่า สาวแปลกหน้าที่ต่อมาเธอจะเฉลยว่าเธอคือแม่เลี้ยงคนใหม่ของเขา


    เจมส์มี่ได้ตรงไปหาเอ็ดเวิล์ดพ่อของเขาโดยทันที และการพบกันครั้งแรกในรอบหลายปีก็แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่นั้นไม่ค่อยจะลงลอยกัน และเจมส์มี่เกลียดพ่อของเขามากแค่ไหน เจมส์มี่ได้ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องของแมรี่ ชอร์ เรื่องสยองประจำเมืองที่เขาเคยได้ยินตอนเด็กว่า ถ้าหากใครที่ส่งเสียงร้อง แมรี่ ชอร์ก็จะมาเอาชีวิตของคนๆนั้นไป เอ็ดเวิล์ดบอกว่าเรื่องนี้คือเรื่องไร้สาระแต่เจมส์มี่ไม่ได้คิดแบบนั้น


    เขาออกมาจากบ้านแล้วตรงมายังสุสานทันทีเพื่อหา เฮนรี่ สัปเหร่อเก่าแก่ของเมืองเพื่อปรึกษาเรื่องงานศพของลิซ่า แต่แล้วในคืนนั้นเฮนรี่ก็ได้เปิดดูศพของลิซ่าเป็นครั้งแรกแล้วมันทำให้เขารู้ว่าแมรี่ ชอร์ กลับมาแล้ว ในขณะเดียวกับเจมส์มี่ที่กำลังนอนอยู่ก็ได้ประเชิญหน้ากับแมรี่ ชอร์ เป็นครั้งแรก วันต่อมาเจมส์มี่ได้จัดงานศพของลิซ่าแล้วนึกขึ้นได้ว่า แมรี่ ชอร์ ได้ถูกฝังไปพร้อมกับตุ๊กตาจำนวนมากมาย เจมส์มี่จึงได้นำตุ๊กตาบิลลี่กลับไปคืนที่หลุมศพของ แมรี่ ชอร์ และเมื่อเขากลับมาถึงที่พักเขาก็พบว่าตุ๊กตาตัวนั้นมันได้กลับมาหาเขาอีกแล้ว


    นักสืบลิตั้น ที่กำลังสืบตามสืบเจมส์มี่อยู่ลับๆได้เข้ามาข่มขู่เจมส์มี่ และขอยึดตุ๊กตาบิลลี่ไป จากนั้นเจมส์มี่ก็ได้แอบขโมยตุ๊กตาบิลลี่เพื่อที่จะได้เดินทางไปหา แมเรีย ภรรยาของเฮนรี่เพราะเธอเคยพูดในงานศพของลิซ่าว่าแมรี่ ซอร์ เป็นคนฆ่าเธอ จนสุดท้ายเฮนรี่ต้องเข้ามาห้ามและย้อนรอยเรื่องเล่าตำนานของ แมรี่ ชอร์ให้เจมส์มี่ฟังว่า "เธอชื่อว่าแมรี่ ชอร์ นักดัดเสียงที่เสียเสียงไป"


    ย้อนกลับไปเมื่อหลาย 10 ปีก่อน ในช่วงยุครุ่งโรจน์ของเมืองได้สร้างโรงละครใหญ่ และแมรี่ ชอร์ก็ได้ทำการขึ้นแสดงอยู่ที่นั่นโดยการเชิดหุ่นบิลลี่ที่เธอสร้างขึ้นมา  และทำการดัดเสียงแต่ทว่ามีเด็กชายคนหนึ่งเกิดหักหน้าเธอขึ้นมากลางการแสดง และทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก หลายอาทิตย์ต่อมาเด็กคนนั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และก็ไม่มีใครหาเขาพบอีกเลย ต่อมาแมรี่ ชอร์ก็ถูกฆ่าตาย และในพินัยกรรมของเธอก็ได้ระบุไว้ว่าให้ฝังเธอพร้อมกับลูกๆตุ๊กตาทั้ง101ตัวของเธอ อีกทั้งยังขอให้แต่งศพของเธอเป็นตุ๊กตา และหลังจากนั้นมาเรเวนแฟรก็เกิดเหตุฆาตกรรมยกครัวขึ้นทั่วทั้งเมือง ศพทั้งหมดถูกพบโดยไม่มีลิ้น


    เจมส์มี่ได้ตรงไปที่โรงละครเก่าเพื่อหาความจริงเขาได้ค้นพบว่าแมรี่ ชอร์ได้อาศัยอยู่ที่นี่ และได้พบสมุดของเธอ มันทำให้เขารู้ว่าเธอกำลังสนใจที่จะสร้างหุ่นที่ไร้ที่ติ จากนั้นเจมส์มี่ก็ได้เดินทางกลับไปบ้านเก่าของตนเอง ทางด้านเฮนรี่ที่กำลังจะนำตุ๊กตาบิลลี่ไปฝังก็ถูกแมรี่ ชอร์ฆ่าตาย และขโมยเสียงของเขาไปเจมส์มี่ได้ตรงไปหาพ่อของเขาเพื่อสอบถามเรื่องราวความจริงของไมเคิลทวดของเขาเด็กชายคนเดียวกับที่เคยท้าทายแมรี่ ชอร์ เมื่อหลาย 10 ปีก่อนพ่อของเขาเล่าว่าในตอนที่ไมเคิลหายตัวไปทุกคนต่างรู้ว่าแมรี่ชอร์ เป็นคนทำทุกคนในเมืองจึงรวมตัวกันจับแมรี่ ชอร์ ไปทรมาน และบังคับให้เธอกรีดร้อง ก่อนที่จะตัดลินและฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยม และตอนนี้เธอก็ได้กลับมาเพื่อแก้แค้นแล้ว


    ในตอนนั้นเองนักสืบได้ตรงเข้ามาหวังจะจับเจมส์มี่แต่แมรี่ ชอร์ได้ปลอมเสียงเป็นเฮนรี่ และหลอกให้เจมส์มี่เดินทางไปหาเธอที่โรงละคร เจมส์มี่รีบตรงไปที่นั่นโดยทันที และมีนักสืบตามไปด้วยเพื่อจับเขา แต่เมื่อสถานะการไม่เป็นใจทำให้ทั้งสองต้องร่วมมือกันเพื่อสืบหาความจริง เจมส์มี่และลอมตั้นได้ค้นพบห้องลับหลังกำแพงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นห้องเก็บตุ๊กตาทั้งหมด101ตัว และยังเป็นห้องพักของแมรี่ ชอร์ แถมเจมส์มี่ก็ได้พบศพของไมเคิลที่หายสาบสูญไปนานแล้วในสภาพครึ่งคนครึ่งตุ๊กตา จากนั้นแมรี่ก็ปรากฎตัวออกมา นักสืบลิมตั้นได้เอาปืนลูกซองยิงเธอจนเธอหายไป ส่วนเจมส์มี่ก็ได้ลงมือเผาตุ๊กตาทั้งหมดซึ่งมันทำให้เธอโกรธมากและพยายามไล่ล่าทั้งคู่


    เจมส์มี่จึงได้รีบกลับมายังบ้านของเขาเพื่อเผาตุ๊กตาบิลลี่ซึ่งเป็นตุ๊กตาตัวสุดท้าย แต่แล้วเจมส์มี่ก็ได้รู้ความจริงว่าพ่อของเขานั้นได้ตายแล้วกลายเป็นหุ่นมาโดยตลอดโดยคนที่อยู่เบื่องหลัง และเชิดเรื่องราวทุกอย่างก็คือเอลล่า เพราะแท้ที่จริงแล้วเธอคือหุ่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดของแมรี่ ชอร์ แล้วเธอก็ได้ใช้หุ่นตัวนี้ส่งตุ๊กตาบิลลี่ไปหาลิซ่า และชักใยเรื่องราวทุกอย่างตลอดมา สิ่งนั้นมันได้ทำให้เจมส์มี่เกินจะรับไหว และได้ส่งเสียงร้องครังสุดท้ายออกมา

*****************************************************************************************************************************

ความคิดเห็น